
ในยุคที่ทุกธุรกิจต้องพึ่งพา Big Data และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนองค์กร การมีระบบ Cybersecurity ที่แข็งแกร่งจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องข้อมูลลูกค้า หรือการรักษาความลับทางการค้า ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึกว่า Cybersecurity คืออะไร และตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำงานในสายงานนี้ ตั้งแต่โอกาสทางอาชีพ ทักษะที่จำเป็น เพื่อให้คุณมองเห็นภาพรวมของโลก Cybersecurity และเปิดประตูสู่เส้นทางอาชีพใหม่ ๆ ที่กำลังเป็นที่ต้องการ

Cybersecurity คืออะไร?
Cybersecurity (ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์) คือชุดมาตรการและเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเกราะป้องกันระบบคอมพิวเตอร์ เครือข่าย โปรแกรม และข้อมูลจากการโจมตีทางไซเบอร์ การเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต การถูกดัดแปลง หรือการทำลาย
โดยหัวใจหลักของ Cybersecurity มุ่งเน้นไปที่การปกป้ององค์ประกอบสำคัญ 3 อย่าง หรือที่เรียกว่า “The CIA Triad” ได้แก่
- Confidentiality (การรักษาความลับ): การปกป้องข้อมูลไม่ให้รั่วไหลไปสู่ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต เช่น การเข้ารหัสข้อมูลเพื่อให้มั่นใจว่ามีเพียงผู้ที่มีสิทธิ์เท่านั้นที่เข้าถึงได้
- Integrity (ความสมบูรณ์ของข้อมูล): การทำให้ข้อมูลอยู่ในสภาพที่ถูกต้อง ไม่ถูกเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะหากข้อมูลถูกบิดเบือนไปอาจส่งผลเสียต่อการตัดสินใจทางธุรกิจ
- Availability (ความพร้อมใช้งาน): การทำให้ระบบและข้อมูลพร้อมใช้งานอยู่เสมอเมื่อผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตต้องการเข้าถึง เช่น ระบบธนาคารออนไลน์ที่ต้องทำงานได้ตลอดเวลา
ด้วยความสำคัญในการสร้างระบบความปลอดภัยที่รอบด้าน โดยการทำความเข้าใจพฤติกรรมของอาชญากรไซเบอร์ ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง Deep Learning เพื่อตรวจจับความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นนี้เอง จึงทำให้ Cybersecurity กลายเป็นอีกหนึ่งสายอาชีพที่น่าจับตามองในปัจจุบัน

เรียนด้าน Cybersecurity หางานยากไหม? ทำไมสายงานนี้ถึงเป็นที่ต้องการสูง?
หลายคนมักมีคำถามว่า Cybersecurity หางานยากจริงหรือเปล่า? ต้องใช้ Connection ทางธุรกิจหรือไม่? คำตอบคือ “ไม่ยาก” หากคุณมีทักษะที่ตลาดต้องการ เพราะปัจจุบันทุกองค์กรต่างตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องข้อมูลและการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า
จากผลการวิจัยของ Cybersecurity Ventures พบว่า มีตำแหน่งงานด้าน Cybersecurity ทั่วโลกที่ยังขาดแคลนอยู่ถึง 3.5 ล้านตำแหน่ง และคาดการณ์ว่าตัวเลขนี้จะยังคงอยู่ไปจนถึงปี 2025 (แหล่งอ้างอิง: Cybersecurity Ventures) ตัวเลขที่น่าทึ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า Cybersecurity ไม่ใช่แค่กระแส แต่เป็นสายงานที่จำเป็นอย่างยิ่งและมีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต
อยากทำงาน Cybersecurity ต้องมีพื้นฐานอะไรบ้าง?
เส้นทางสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Cybersecurity ไม่ได้อาศัยแค่พื้นฐานด้านไอทีเพียงอย่างเดียว หากแต่ยังต้องการบุคลากรที่มีความรู้ที่หลากหลายและพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ทักษะพื้นฐานสำหรับสาย Cybersecurity แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ Hard Skills และ Soft Skills
1. Hard Skills: ทักษะด้านเทคนิคที่จำเป็น
- ความรู้ด้านระบบและเครือข่าย: ควรต้องเข้าใจการทำงานของระบบปฏิบัติการ เช่น Windows, macOS, Linux และโครงสร้างเครือข่าย เพื่อระบุจุดอ่อนและช่องโหว่ได้
- ความรู้พื้นฐานด้านภาษาคอมพิวเตอร์: แม้ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียนโค้ดเหมือน Machine Learning Engineer แต่การมีความรู้พื้นฐานในภาษาอย่าง Python, PowerShell หรือ Bash จะช่วยในการสร้างสคริปต์เพื่อตรวจสอบและป้องกันระบบ
- ความเข้าใจเทคโนโลยีใหม่ ๆ: การเรียนรู้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้คุณปรับตัวเข้ากับภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ ๆ ได้ทันท่วงที
2. Soft Skills: ทักษะด้านการทำงานที่สำคัญ
- การคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ: การทำงานในสายงานนี้ต้องอาศัยการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผลและละเอียดรอบคอบ เพื่อตามรอยการโจมตีที่ซับซ้อน
- ความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัว: เนื่องจากภัยคุกคามทางไซเบอร์พัฒนาอยู่ตลอดเวลาเราควรต้องพร้อมเรียนรู้และอัปเดตความรู้ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง

อยากทำงาน Cybersecurity ต้องเรียนคณะอะไร?
แม้ว่าสายงาน Cybersecurity จะไม่ได้มีกฎตายตัวว่าต้องจบจากคณะใดโดยเฉพาะ แต่การเลือกเรียนในสาขาที่ให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีเชิงลึกจะช่วยให้คุณได้เปรียบมากกว่า โดยเฉพาะในสถาบันการศึกษาที่มีหลักสูตรที่ทันสมัยและตอบโจทย์ตลาดงานยุคใหม่ อย่างที่ วิทยาลัยนานาชาติ สถาบันเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น (TNIC) ที่เปิดสอนหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง
- สาขาวิชาวิทยาการข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ (Data Science and Artificial Intelligence) หลักสูตรนี้จะสอนให้คุณเข้าใจการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) การสร้างซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูล และการใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อวิเคราะห์และออกแบบระบบป้องกันที่อาศัยข้อมูลในการตัดสินใจ รวมถึงความเข้าใจในภาษาคอมพิวเตอร์ที่จำเป็นในการทำงาน
- สาขาวิชาวิศวกรรมดิจิทัล (Digital Engineering) หลักสูตรที่เน้นการออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์ รวมถึงระบบเครือข่ายและความมั่นคงปลอดภัย ทำให้คุณเข้าใจโครงสร้างของระบบดิจิทัลอย่างลึกซึ้ง เพื่อหาวิธีป้องกันและนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการสร้างระบบที่ปลอดภัย
การเรียนรู้ในสาขาเหล่านี้จะช่วยให้มีทักษะที่รอบด้านและเป็นที่ต้องการในอุตสาหกรรม เพราะได้เรียนรู้ทั้งทฤษฎีและการปฏิบัติ ซึ่งจะทำให้เข้าใจบทบาทของอาชีพสาย Cybersecurity ได้อย่างดี

การก้าวเข้าสู่สายอาชีพนี้นั้นไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับผู้ที่สนใจและมองหาเส้นทางอาชีพที่มั่นคงในอนาคต เพราะ Cybersecurity เป็นศาสตร์แห่งการปกป้องข้อมูลที่ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้
หากคุณพร้อมที่จะเริ่มต้นเส้นทางนี้ วิทยาลัยนานาชาติ สถาบันเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น (TNIC) มีหลักสูตรที่พร้อมตอบโจทย์ ทั้ง สาขาวิชาวิทยาการข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ (Data Science and Artificial Intelligence) และ สาขาวิชาวิศวกรรมดิจิทัล (Digital Engineering) ที่จะช่วยให้คุณก้าวสู่การเป็นมืออาชีพด้าน Cybersecurity ที่ตลาดต้องการได้อย่างมั่นใจ ดูรายละเอียด คลิก
แหล่งข้อมูล
