Business Intelligence คืออะไร? สำคัญอย่างไรต่อแวดวงธุรกิจ
Credit: Freepik.com
ในยุคดิจิทัล ข้อมูลกลายเป็นทรัพยากรอันมีค่าสำหรับแวดวงธุรกิจ เปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางที่ช่วยให้นักธุรกิจสามารถตัดสินใจดำเนินงานต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะส่งผลไม่ว่าจะดีหรือร้ายต่อธุรกิจ โดยมีเครื่องมือที่เรียกว่า Business Intelligence หรือ ระบบธุรกิจอัจฉริยะ เป็นตัวช่วยอัปเกรดข้อมูลทั่วไปให้กลายเป็นผลลัพธ์ที่มีค่ามหาศาลต่อธุรกิจ ซึ่งเราจะมาทำความรู้จักกันในบทความนี้
Credit: Freepik.com
Business Intelligence (BI) คืออะไร?
Business Intelligence (BI) หรือ ระบบธุรกิจอัจฉริยะ คือเทคโนโลยีและกระบวนการที่ช่วยแปลงข้อมูลดิบมหาศาลให้กลายเป็นข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจ ปรับปรุง และวางแผนเกี่ยวกับธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขั้นตอนการใช้งานของ Business Intelligence
- รวบรวมข้อมูล การที่ Business Intelligence จะทำงานได้ ต้องมีการดึงข้อมูล แปลงข้อมูล และโหลดข้อมูลมารวบรวมจัดเก็บไว้ด้วยกันเพื่อให้ง่ายต่อการวิเคราะห์และการค้นหา ข้อมูลที่ใช้จะมาจากแหล่งต่าง ๆ ในหลากหลายรูปแบบและประเภท ทั้งภายในและภายนอกองค์กร เช่น ข้อมูลการขาย ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลตลาด ข่าวสาร ฯลฯ
- หาคำตอบจากข้อมูล เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ Business Intelligence จะทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยฟีเจอร์หลายประเภทจากการสำรวจข้อมูล หาความเชื่อมโยงเชิงสถิติ ทำนายแนวโน้มของข้อมูล และเปรียบเทียบประสิทธิภาพในปัจจุบันกับข้อมูลในอดีต
- สร้างแบบจำลองจากข้อมูล หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคนิคทางสถิติและ Machine Learning แล้ว Business Intelligence ก็นำข้อมูลเหล่านั้นมาทำสร้างรายงาน กราฟ หรือแผนภูมิ ฯลฯ เพื่อแสดงให้เห็นความเชื่อมโยงของข้อมูลหรือแนวโน้มตามที่ต้องการ
หลังจากผู้ใช้ได้ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการวิเคราะห์แล้ว ก็จะนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจดำเนินธุรกิจ ปรับหรือเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ตามเป้าหมายของธุรกิจ
Credit: Freepik.com
แล้ว Business Intelligence สำคัญต่อแวดวงธุรกิจอย่างไร?
- เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน : ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของธุรกิจ สามารถทำนายแนวโน้มอนาคตที่มีผลต่อแผนธุรกิจขององค์กรได้ เป็นตัวช่วยที่ทำให้สามารถวางแผนในอนาคต หรือปรับกลยุทธ์องค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้
- ช่วยตัดสินใจ : เมื่อมีสถานการณ์ที่ธุรกิจไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างชัดเจน ข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์และประมวลผลนี้เองจะช่วยให้มองเห็นทางออกที่เหมาะสมมากกว่าเพื่อตัดสินใจ
- ลดความเสี่ยง : ช่วยธุรกิจในการวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจจนมองเห็นความเสี่ยงที่มีโอกาสเผชิญ ซึ่งข้อมูลนี้ช่วยให้ธุรกิจมีเวลาเตรียมแผนรับมือไว้ล่วงหน้า
- เพิ่มยอดขายและกำไร : ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจความต้องการของลูกค้า พัฒนากลยุทธ์การตลาด สินค้า และบริการให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้นได้
- สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน : ช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์คู่แข่งและพัฒนากลยุทธ์ให้เหนือกว่าได้
นอกจากวงการธุรกิจ Business Intelligence เป็นประโยชน์ต่อวงการไหนได้อีกบ้าง?
Business Intelligence สามารถนำไปใช้ได้กับทุกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดเล็ก หรือแม้แต่หน่วยงานภาครัฐ เช่น ธนาคาร ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงเรียน มหาวิทยาลัย หน่วยงานราชการ ฯลฯ ยกตัวอย่างเช่น หน่วยงานทางการแพทย์สามารถใช้เครื่องมือนี้ในการคำนวณหาช่วงเวลาที่มีความชุกของโรคสูงได้ หรือโรงเรียนสามารถค้นหาวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพของห้องเรียนผ่านการทำ Data Mining ด้วยเครื่องมือนี้
โปรแกรมและซอฟต์แวร์สำหรับ Business Intelligence มีอะไรบ้าง?
ปัจจุบันเครื่องมือ Business Intelligence ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายนั้น มีอยู่หลายซอฟต์แวร์ด้วยกัน คือ
- Power BI พัฒนาโดย Microsoft เป็นเครื่องมือ Business Intelligence บนเว็บไซต์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย ใช้งานง่ายและช่วยให้เห็นข้อมูลเชิงลึก สร้างแดชบอร์ดและรายงานได้
- Tableau พัฒนาโดย Salesforce อีกหนึ่งเครื่องมือ Business Intelligence ที่ขึ้นชื่อในด้าน Data Visualization ที่สวยงามและใช้งานง่าย และยังสามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยมอย่าง เช่น MS Excel, Google Analytics หรือ SalesForce อีกทั้งยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อเพิ่มความสามารถในการตัดสินใจได้
- Qlik Sense พัฒนาโดย Qlik มีจุดเด่นในเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูล สามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลได้หลายประเภท แถมยังสามารถดาวน์โหลดปลั๊กอินมาใช้ได้ฟรีด้วย
- Google Data Studio พัฒนาโดย Google เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการดึงข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ จากฐานข้อมูล หรือจาก Google Analytics ได้อย่างราบรื่น ง่ายต่อการนำไปแสดงผล และแชร์ Dashboard ให้ทีมใช้งานได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
Credit: Adobe.com
ทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับการใช้งาน Business Intelligence
- ทักษะในการใช้ภาษาคอมพิวเตอร์ Business Intelligence อาศัยภาษาคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ในการทำงานอย่างภาษา SQL, Python, R, JavaScript เป็นต้น
- ทักษะการวิเคราะห์ข้อมูล ผู้ใช้จำเป็นต้องเข้าใจและตีความข้อมูลได้ ทั้งก่อนและหลังประมวลผล รวมถึงสามารถระบุรูปแบบ แนวโน้ม และดึงข้อสรุปจากข้อมูลได้
- ทักษะการสื่อสารและการเล่าเรื่อง ยิ่งข้อมูลซับซ้อนก็ต้องยิ่งหาวิธีถ่ายทอดให้เข้าใจง่าย ผู้ใช้ควรมีทักษะในการสื่อสารหรือนำเสนอผลการวิเคราะห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถอธิบายข้อมูลให้ผู้อื่นเข้าใจได้อย่างชัดเจน กระชับ และเป็นลำดับ ไม่อย่างนั้นผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่สามารถนำไปใช้ต่อได้อย่างเต็มศักยภาพ
- ทักษะด้าน Data Visualization ผู้ใช้ควรเข้าใจวิธีการนำเสนอข้อมูลด้วยภาพ ไม่ว่าจะเป็นชาร์ทหรือกราฟในลักษณะต่าง ๆ เพื่อนำไปถ่ายทอดข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจ จะต้องมีความเข้าใจพื้นฐานในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลนั้น ต้องรู้ว่าตัวชี้วัดและหลักเกณฑ์ประเมินประสิทธิภาพคืออะไร และต้องรู้ว่าสามารถนำข้อมูลมาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพสำหรับธุรกิจเหล่านั้นได้อย่างไร
Business Intelligence เปรียบเสมือนกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของธุรกิจในยุคดิจิทัล ธุรกิจใดที่เข้าใจและนำ Business Intelligence มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพก่อนย่อมสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง และขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่เป้าหมายได้อย่างมั่นใจ หากคุณต้องการเป็นอีกคนหนึ่งที่ได้เปรียบในเกมธุรกิจ พิชิตทุกโอกาสในอนาคต มาเป็นส่วนหนึ่งของเราได้ที่สาขาวิชาวิทยาการข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ (Data Science and Artificial Intelligence) วิทยาลัยนานาชาติ สถาบันเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น (TNIC) ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ https://tnic.tni.ac.th/th/dsa-program-th/
แหล่งที่มา