Big Data คืออะไร? ประโยชน์และการนำมาใช้ในธุรกิจมีอะไรบ้าง?
Credit: Freepik.com
เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงคุ้นเคยกับคำว่า Big Data ในข่าวสารหรือแวดวงเทคโนโลยี แต่อาจไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร และเอาไปใช้ทำอะไรกันแน่ ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับ Big Data และความสำคัญในธุรกิจกัน
Big Data หมายถึงอะไร?
Big Data หมายถึงชุดข้อมูลที่มีขนาดใหญ่มากกว่าหลักเทราไบท์ (Terabyte) ซึ่งรวบรวมตัวเลข ข้อความ ประโยค หรือชุดตัวอักษรที่ผสมผสานกัน มีลักษณะสำคัญอยู่ 6 ข้อก็คือ
1. มีปริมาณมาก
2. มีความหลากหลาย
3. มีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
4. มีประโยชน์ต่อธุรกิจ
5. มีความชัดเจน
6. มีความเชื่อมโยงกัน
ตัวอย่างของ Big Data ที่ทำให้เห็นเอกลักษณ์ทั้ง 6 ข้อได้ชัดเจนก็คือ ข้อมูลการเสิร์ชบน Search Engine นั่นก็เพราะว่าปริมาณการค้นหาบน Google ของผู้คนทั่วโลกเพียงแค่วันเดียวก็ปาเข้าไปถึง 8.5 พันล้านครั้ง หรือประมาณ 99,000 ครั้งต่อวินาที ซึ่งนับว่ามีปริมาณมหาศาลเลยทีเดียวและยังคงเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ไม่หยุด
ข้อมูลที่ผู้คนใช้ค้นหาใน Search Engine ก็มีความหลากหลายในหลายแง่มุมเป็นอย่างมาก ตั้งแต่หมวดหมู่ ภาษา ระยะเวลาที่ค้นหา ไปจนถึงชนิดของคำถาม ด้วยความหลากหลายนี้เองจึงทำให้ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ได้ เช่น ความถี่ในการพูดถึงแบรนด์ ประเทศที่พูดถึงบ่อย เป็นต้น
นอกจากนั้น ข้อมูลการเสิร์ชบน Search Engine ยังมีความชัดเจนและเชื่อมโยงกันด้วย เช่น ช่วงเวลาที่ใช้ค้นหาเชื่อมโยงกับภูมิภาคของเครื่องมือที่ใช้ในการค้นหา ซึ่งสามารถแบ่งประเภทของคำถามได้อย่างชัดเจน เป็นต้น
Big Data สามารถเป็นได้ทั้งข้อมูลจากโลกออนไลน์และข้อมูลภายในองค์กรหรือเครือข่ายที่สะสมมาเป็นระยะเวลานาน เช่น ความคิดเห็นบน Social Media ข้อมูลคนไข้ หรือแม้แต่ข้อมูลการทำธุรกรรมของลูกค้าธนาคารทั้งหมด
Credit: Pixabay.com
Big Data มีประโยชน์อย่างไรบ้าง?
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า Big Data คืออะไรและมีลักษณะอย่างไรบ้าง หนึ่งในคุณสมบัติสำคัญของมันก็คือต้องเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ ซึ่ง Big Data สามารถนำไปใช้งานในเชิงธุรกิจได้ ดังนี้
1. ค้นหา Insight ของผู้บริโภค
ธุรกิจสามารถใช้ข้อมูลที่มีมหาศาลนี้ในการพิจารณาว่าทิศทางของตลาดเป็นอย่างไร มีอะไรที่ยังขาดอยู่และเป็นที่ต้องการอย่างมาก มีอะไรที่ต้องปรับปรุงเพื่อให้เข้ากับเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้น หรือแม้แต่สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ขึ้นมาเพื่อตอบรับกับกระแสที่พบจาก Big Data ก็เป็นได้
2. รู้จักลูกค้ามากขึ้น
แน่นอนว่าการที่ธุรกิจรู้จักพฤติกรรมและความชอบของลูกค้ามากขึ้นก็จะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างยอดขายมากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลช่วงเวลาที่ลูกค้าชอบเข้ามาแวะเวียนบนเว็บไซต์ ประเภทสินค้าที่ลูกค้าชอบเข้ามาดูบ่อย ๆ ไปจนถึงระยะเวลาที่ลูกค้าใช้จนกว่าจะกดชำระเงิน สิ่งเหล่านี้สามารถค้นพบได้จากการวิเคราะห์ Big Data ที่สะสมจากข้อมูลการใช้งานบนหน้าเว็บไซต์ของคุณได้นั่นเอง
3. สร้างความสามารถในการแข่งขัน
Big Data ของแต่ละองค์กรจะมีความเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นอาจมองได้ว่าเป็นไพ่ตายที่ใช้ในการดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี ในบางครั้ง อาจใช้เพื่อเปลี่ยนลูกค้าของคู่แข่งมาเป็นของเราได้ด้วย เรียกได้ว่าองค์กรใดที่เข้าใจและใช้ Big Data ได้ดีกว่าก็อาจเป็นผู้นำของธุรกิจนั้นเลยก็ได้
4. พยากรณ์อนาคต
ข้อมูลจาก Big Data สามารถใช้ในการทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้โดยการเปรียบเทียบข้อมูลปีต่อปี ซึ่งจะทำให้ธุรกิจมองเห็นว่าในช่วงเวลาใดของปีที่ลูกค้าจับจ่ายให้กับคุณเยอะที่สุด ช่วงไหนต้องการการกระตุ้นยอดขาย หรือในแต่ละปีมีสิ่งใดที่เพิ่มลดอย่างชัดเจนบ้าง เพื่อเตรียมแผนรับมือที่แม่นยำได้
วิธีการนำ Big Data ไปใช้งานมีอะไรบ้าง?
1. Data Visualization เป็นการนำข้อมูลจาก Big Data มาถ่ายทอดในรูปแบบของภาพที่เข้าใจง่าย ไม่ว่าจะเป็นกราฟ แผนภูมิ หรือแม้แต่แผนที่ โดยนำข้อมูลภาพรวมทั้งหมดมาประมวลผล
2. Data Mining ก็คือการนำ Big Data มาคัดเลือกข้อมูลที่ต้องการในประเด็นที่สนใจและจัดหมวดหมู่เพื่อนำไปวิเคราะห์และแสดงออกมาเป็นผลลัพธ์ที่เข้าใจง่าย
3. Machine Learning เป็นกระบวนการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยให้เครื่องจักรเรียนรู้ข้อมูลจาก Big Data เพื่อที่จะมองเห็นรูปแบบและสามารถประมวลผลข้อมูลได้ด้วยตัวเอง รวมถึงนำเสนอผลลัพธ์ได้อย่างแม่นยำด้วย
Credit: Pixabay.com
Big Data เรียกได้ว่าเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของแทบทุกแวดวงธุรกิจ เพราะช่วยให้การตัดสินใจแม่นยำขึ้น มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ ลดผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่สามารถคาดการณ์ได้ และยังนำไปใช้เพื่อพิชิตใจลูกค้า เรียนรู้วิธีการนำ Big Data ไปใช้งานให้เต็มประสิทธิภาพได้ที่ วิทยาลัยนานาชาติ สถาบันเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น (TNIC) สถาบันที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและการบริหารธุรกิจ ภายใต้หลักสูตรที่เกี่ยวข้องถึง 3 หลักสูตรด้วยกัน
1. สาขาวิชาวิทยาการข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ (Data Science and Artificial Intelligence) มุ่งเน้นการพัฒนาและการใช้ฐานข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพในเทคโนโลยี AI และธุรกิจต่าง ๆ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://tnic.tni.ac.th/th/dsa-program-th/
2. สาขาวิศวกรรมดิจิทัล (Digital Engineering) เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเทคโนโลยี AI และนวัตกรรมเพื่อเชื่อมโยงโลกดิจิทัลกับการดำเนินชีวิตอย่างราบรื่นโดยใช้ข้อมูลเป็นตัวนำทาง ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://tnic.tni.ac.th/th/dge-program-th/
3. สาขาธุรกิจระหว่างประเทศและการเป็นผู้ประกอบการ (International Business and Entrepreneurship) เปิดประตูสู่โลกธุรกิจและโอกาสในระดับนานาชาติด้วยไอเดียที่แตกต่าง เรียนรู้การประยุกต์ใช้ข้อมูลเพื่อยกระดับธุรกิจ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://tnic.tni.ac.th/th/ibn-program-th/
แหล่งข้อมูล