เจาะลึกอาชีพ Machine Learning Engineer ดาวรุ่งพุ่งแรงในอนาคต
ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีกำลังพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด คงไม่มีใครไม่รู้จักกับ AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตของพวกเราแทบจะทุกด้าน
AI เปรียบเสมือนมันสมองของระบบคอมพิวเตอร์และเครื่องจักร ที่ทำงานอัตโนมัติโดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์ อีกทั้งยังสามารถเรียนรู้และพัฒนาตัวเองจนมีความฉลาดเกือบทัดเทียมมนุษย์ได้ และผู้ที่อยู่เบื้องหลังระบบสุดอัจฉริยะเหล่านี้ คือ อาชีพ ‘Machine Learning Engineer’ นั่นเอง
บทความนี้จึงขอพาทุกท่านไปรู้จักกับหน้าที่ความรับผิดชอบ ทักษะที่จำเป็น และเส้นทางสายอาชีพของ Machine Learning Engineer หนึ่งในอาชีพที่ยังคงน่าจับตามองในปี 2024
อาชีพ Machine Learning Engineer คืออะไร?
Machine Learning Engineer หรือ วิศวกรผู้พัฒนาระบบการเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine Learning) โดยออกแบบระบบ AI ให้สามารถ คิด วิเคราะห์ และประมวลผลทำงานได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพาคำสั่งการจากมนุษย์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน ทั้งยังออกแบบขั้นตอนการเรียนรู้ของ AI ให้ระบบฉลาดขึ้นอย่างรวดเร็ว ผ่านการจัดการข้อมูลมหาศาล เช่น การใช้ Machine Learning ของ AI ในการคาดการณ์สภาพอากาศ โดยใช้ข้อมูลจากสภาพอากาศก่อนหน้ามาประมวลผล หรือจะเป็นการแนะนำสินค้าในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นขายของออนไลน์ที่ใช้ AI แนะนำสินค้าได้ตรงใจผู้ซื้อ โดยอ้างอิงจากข้อมูลพฤติกรรมของผู้ซื้อเอง เป็นต้น
หน้าที่ของ Machine Learning Engineer ต้องทำอะไร?
Machine Learning Engineer เป็นงานที่ต้องใช้ความรู้และความสามารถหลายด้านมาประยุกต์ใช้เพื่อประกอบร่างสร้างระบบอัจฉริะขึ้นมา โดยเริ่มจากขั้นตอนดังต่อไปนี้
- รับโจทย์ กำหนดปัญหาสุดท้าทายที่ Machine Learning Engineer ต้องแก้ไข
ในขั้นแรกของการทำงาน Machine Learning Engineer จะต้องรับทราบปัญหา หรือโอกาสในการใช้ Machine Learning เพื่อจะได้กำหนดเป้าหมาย ขอบเขตของงานให้สามารถออกแบบ Algorithm ที่ตรงกับการใช้งาน และตอบโจทย์ปัญหาของผู้ใช้งานได้ โดยต้องผ่านการวิเคราะห์ปัญหา มีความเข้าใจในบริบทต่างๆ และพิจารณาถึงปัจจัยรอบด้านที่จะต้องนำ Machine Learning ไปใช้งาน เช่น รูปแบบธุรกิจ อุปกรณ์ที่ต้องใช้งาน หรือลูกค้า เป็นต้น
- ออกแบบ พัฒนา และทดสอบระบบ Machine Learning
หลังจากกำหนดปัญหาและขอบเขตได้ Machine Learning Engineer จะทำหน้าที่วางแผน ออกแบบ สร้าง Algorithm เป็น Machine Learning ให้กับ AI จนสามารถคิด วิเคราะห์ เกิดการเรียนรู้ และตัดสินใจได้ด้วยตนเองอย่างเป็นระบบ จากนั้น Machine Learning Engineer ก็จะพัฒนาระบบเพื่อสร้าง AI ให้ฉลาดขึ้น ก่อนจะนำไป ทดสอบระบบอย่างละเอียด เป็นการตรวจสอบว่า AI ทำงานได้ประสิทธิภาพตรงตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในขั้นแรกหรือไม่ และหาทางแก้ไขปัญหา หากระบบที่สร้างมายังมีจุดบกพร่อง
- ทำงานร่วมกับทีมผู้เชี่ยวชาญด้านอื่น
Machine Learning Engineer จะต้องทำงานร่วมกับทีมงานจากหลากหลายสาขา เพื่อพัฒนาโมเดล Machine Learning ที่มีประสิทธิภาพและใช้งานได้จริง ซึ่งบุคคลที่ต้องทำงานร่วมด้วยนั้นจะประกอบไปด้วย
1. Data Scientist: ผู้ทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูล หาแนวโน้ม และสร้างโมเดล Machine Learning เบื้องต้น Machine Learning Engineer จะนำโมเดลเหล่านี้ไปปรับแต่ง พัฒนา และใช้งานจริง
2. Software Engineer: ทำหน้าที่เขียนโปรแกรมและสร้างระบบสำหรับใช้งานโมเดล Machine Learning เพื่อออกแบบระบบให้รองรับโมเดลนั้นๆ ให้สามารถใช้งานได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ
3. DevOps Engineer: ทำหน้าที่ดูแลระบบโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ซึ่ง Machine Learning Engineer จะทำงานร่วมกับ DevOps Engineer เพื่อปรับใช้โมเดล Machine Learning ไปยังระบบ production และดูแลระบบให้ทำงานได้ราบรื่น
4. Product Manager: ทำหน้าที่กำหนดทิศทางและความต้องการของผลิตภัณฑ์ Machine Learning เป็นผู้ที่เข้าใจความต้องการของผู้ใช้งาน
5. Domain Expert: เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ Machine Learning Engineer จำเป็นต้องทำงานร่วมด้วย เพื่อเข้าใจปัญหาและความต้องการของธุรกิจ และนำข้อมูลเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาโมเดล Machine Learning
6. นักออกแบบ UX/UI: ทำหน้าที่ออกแบบหน้าจอและอินเทอร์เฟซสำหรับใช้งานโมเดล Machine Learning เพื่อออกแบบหน้าจอให้ง่ายต่อการใช้งาน และผู้ใช้สามารถเข้าใจผลลัพธ์ของโมเดลได้อย่างสะดวก รวดเร็ว
7. ทีม Tester / QA: ทำหน้าที่ทดสอบโมเดล Machine Learning เพื่อหาข้อผิดพลาด และปรับโมเดล Machine Learning ให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพสูงสุด
ความรู้และทักษะใดที่ Machine Learning Engineer ต้องใช้?
ดังที่ทราบกันดีว่า Machine Learning เป็นศาสตร์ที่ใช้ Algorithm อันชาญฉลาดในการวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาล ผลลัพธ์ที่ได้คือระบบอัจฉริยะที่สามารถเรียนรู้ คาดการณ์แนวโน้ม และทำงานอัตโนมัติโดยไม่ต้องพึ่งพาการควบคุมจากมนุษย์อยู่เสมอ ดังนั้น Machine Learning Engineer จึงจำเป็นต้องมีความรู้ Hard Skills และ Soft Skills ดังนี้
Hard Skills ที่จะช่วยให้ทำงานด้านเทคนิค ได้แก่
- มีความรู้พื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์ (Computer Science) โดยเฉพาะเรื่องของ โครงสร้างข้อมูล (Data Structures), อัลกอริทึม (Algorithms) , ความสามารถในการคำนวณและความซับซ้อน (Computability & Complexity) และ สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Architecture) ซึ่งความรู้เหล่านี้จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ตามปัญหาและเป้าหมายต่างๆ
- มีความเชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์และโดยเฉพาะ ‘สถิติและความน่าจะเป็น’ ซึ่งเป็นหนึ่งเครื่องมือที่ใช้เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล และช่วยให้ Machine Learning ทำงานได้อย่างแม่นยำ
- มีความรู้และทักษะในการเขียนโปรแกรมภาษา Python, Java, C/C++ และโปรแกรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Machine Learning และ Deep Learning
- มีประสบการณ์เกี่ยวกับบริการระบบคลาวด์ หรือการพัฒนาเว็บไซต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ตามความต้องการของลูกค้า
Soft Skills ที่ช่วยให้ทำงานร่วมกับผู้อื่น จนบรรลุเป้าหมายของงานได้ ได้แก่
- ทักษะในการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพที่สามารถอธิบายข้อมูลที่ซับซ้อนให้คนทั่วไปเข้าใจได้
- ทักษะการทำงานเป็นทีม ที่ต้องทำงานร่วมกับ Data Scientist, Software Engineer, Product Managers ฯลฯ
- ทักษะในการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา
- ทักษะในการปรับตัวเข้ากับสิ่งใหม่ๆ ทันโลก เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ และพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
Machine Learning Engineer ต้องเรียนจบคณะอะไร ?
สำหรับการเป็น Machine Learning Engineer อาจไม่มีคณะที่เรียนเฉพาะเจาะจงโดยตรง แต่จะมีสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง ให้ได้เรียนรู้ทักษะที่จำเป็นสำหรับงานนี้ อันได้แก่
- สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์
- สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
- สาขาวิศวกรรมซอฟต์แวร์
- สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ
- สาขา Data Science
- สาขาวิชาคณิตศาสตร์และสถิติ
แต่ทั้งนี้ ผู้ที่เรียนจากสายอาชีพอื่นก็สามารถศึกษาค้นคว้า หาความรู้ และฝึกฝนทักษะในสายอาชีพนี้ได้ด้วยตนเอง โดยการเข้าคอร์สต่างๆ หรือเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นต่อไปได้
ความต้องการของตลาด การแข่งขัน และการเติบในสายอาชีพเป็นอย่างไร ?
สำหรับอาชีพนี้ยังเป็นที่ต้องการของตลาดสูง เพราะในประเทศไทยยังไม่ค่อยมี Machine Learning Engineer มากพอเพื่อรองรับอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องการ Machine Learning อย่าง Fintech, E-commerce , Manufacturing, Telecommunications ฯลฯ เช่นเดียวกัน ความต้องการอาชีพสาย Machine Learning และ AI ของตลาดในต่างประเทศนั้นก็สูงไม่แพ้ไทย อย่าง สหรัฐอเมริกา, จีน , แคนาดา, เยอรมนี, สหราชอาณาจักร, สิงคโปร์ ฯลฯ
ส่วนการแข่งขันของสายงานนี้ในไทย อาจจะยังไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับต่างประเทศ เพราะจำนวนผู้เชี่ยวชาญ ด้าน Machine Learning ยังมีไม่มาก
สำหรับการเติบโตในสายงาน Machine Learning Engineer นั้น ก็สามารถเติบโตไปได้ เริ่มจากระดับ Junior ไปจนถึงระดับ Team Lead หากยังทำงานสายนี้โดยตรง ซึ่งก็จะมีฐานเงินเดือนตามประสบการณ์และความสามารถ แต่ถ้าต้องการเติบโตไปในสายงานไอทีอื่นๆ ก็สามารถปรับเปลี่ยนไปทำงานสาย Data Engineer หรือ Software Engineer ได้ หรือถ้าต้องการเติบโตในสายธุรกิจ ก็สามารถผันตัวมาเป็น Project Manager หรืองานอื่นๆ ที่ยังสามารถใช้ทักษะของ Machine Learning Engineer ได้
อาชีพ Machine Learning Engineer ได้เงินเดือนประมาณเท่าไหร่?
เงินเดือนของ Machine Learning Engineer ในไทยสำหรับผู้เริ่มต้นทำงาน โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 30,000 – 50,000 บาท ต่อเดือน และสำหรับผู้ที่ทำงานมีประสบการณ์มากขึ้นจะได้รับเงินเดือนอยู่ที่ราวๆ 50,000 – 85,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และตำแหน่งในบริษัท ซึ่งยิ่งมากประสบการณ์และอยู่ในตำแหน่งสูงๆ เงินเดือนอาจจะไปแตะถึงหลักแสนบาทได้
หากคุณใฝ่ฝันอยากเป็นผู้สร้างนวัตกรรม มีใจรักในเทคโนโลยี มองเห็นการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องท้าทาย และปรารถนาที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนโลกอนาคตด้วยสิ่งใหม่ๆ Machine Learning Engineer อาจเป็นงานที่ใช่สำหรับคุณ
หากสนใจสร้างทักษะแห่งโลกอนาคตสู่การเป็น Machine Learning Engineer สามารถมาเป็นส่วนหนึ่งของเราได้ที่ วิทยาลัยนานาชาติ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น (TNIC) คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมดิจิทัล (Digital Engineering)
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ https://www.tni.ac.th/engineering/major_dge
แหล่งที่มา
trueplookpanya.com
qhunter.co.th
blockdit.com
aigencorp.com
medium.com
analyticsvidhya.com